การดูรถมือสองว่าเคยจมน้ำมาหรือไม่

ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ ชนิดที่เรียกได้ว่าผมเกิดมายังไม่เคยเจอน้ำท่วมหนัก เท่าครั้งนี้เลย ผมต้องไปนอน office รถต้องไปจอดไว้บนตึกสูง ยอมรับชีวิตช่วงนั้นลำบากมาก แต่ก็ถือว่าโชคดีมาก ที่ ทรัพสินใหญ่ๆ ไม่มีการสูญเสีย หรือพัง แต่ยังอยู่ครับและสมบูรณ์ โดยเฉพาะรถที่ผม รักนักรักหนานี้แหละ  แต่ก็แอบหดหู่ใจทุกครั้งที่ได้เห็นภาพ รถที่จมน้ำอย่างมหาศาล เพราะนั่งเรื่อไปจุดไหน ก็เห็นแต่ รถที่ทำตัวเหมือนเป็นเรือดำน้ำ ลอยไปลอยมาอยู่เกือบทุกจุด TT  ภาพดังกล่าวจึงทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า  เมื่อน้ำลดแล้ว รถพวกนี้ จะไปอยู่ไหน 1 อยู่อู่ เพื่อซ่อม  2 อยู่เต็นท์ เพื่อขาย  ไอ้อยู่อู่เพื่อซ่อมต่อๆไปอาจจะไปอยู่เต็นท์เพื่อขายก็ได้ หรืออยู่หน้าบ้านเพื่อขาย  โอ้ยย คิดดูแล้ว น่าสงสารเจ้าของรถมากๆ แต่ที่น่าสงสารและเป็นห่วงมากกว่านั้น ก็คือผู้ที่จะซื้อรถที่ผ่านการจมน้ำมานะซิ เค้าจะรู้มั้ย ว่าเมื่อก่อนรถคันนี้เคยทำหน้าที่เสมือนเรือดำน้ำมาแล้ว …..

นอกจากการดุรถที่ผ่านการชนหนัก ชนเบา ทำสี มาแล้ว ยังมีอีก อย่างหนึ่่งในการเลือกรถมือสองที่ดีคือ ต้องรู้ว่า รัถคันไหน มีการจมน้ำ หรือน้ำท่วมมา  และในบทความนี้ำจะแนะนำผู้ที่จะซื้อรถมือสองสังเกตดูเบื้องต้นว่า รถคันที่เราหมายตาเนี้ย เคยจมน้ำมาหรือไม่  เราลองไปดูเลยครับ ว่ามันมีขั้นตอนวิธีการดูอย่างไรและต้องดูตรงไหนบ้าง

1. ระบบไฟ  น้ำกับไฟ เป็นของไม่ถูกกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ดังนี้การตรวจระบบไฟ จะเป็นการตรวจสอบขั้นพื้นฐานในการตรวจรถมือสอง เพราะว่าถ้าเกิดรถคันดังกล่าวโดนน้ำท่วมมา ไม่ว่าจะเป็นพวกขั้ว ข้อต่อ หรืออุปกรณ์อีเล็กทรอนิก ก็จะมีกปัญหาไปด้วย ไม่สนิมกิน ก็หลวม ชำรุด การทดสอบ ก็ลองพวกอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้า ไฟสูง ไฟเลี้ยง ไฟฉุกเแิน ไฟ…ทุกตำแหน่งที่มีในรถ ต่อมา ก็เป็น พวกกระจกไฟฟ้า แอร์ ปัดน้ำฝน เซ็นเซอร์ต่าง ทุกชิ้นส่วนต้องทำงานปกติ (ขั้นตอนนี้เป็นมาตรฐานที่ต้องตรวจสอบ ไม่มียกเว้น)  เมื่อปกติ แล้ว ก็ถือว่าใช้ได้ในระดับหนึ่ง ครับ

2 กลิ่นห้องโดยสาร   รถที่จมน้ำมานาน และน้ำที่จมมานั้นเป็นน้ำที่ไม่สะอาด พอนานไป จึงทำให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ นั้นก็คือกลิ่นอับ  ไอ้เจ้ากลิ่นนี้ผมว่าใครหลายๆ คนอาจจะเคยสัมผัสมาแล้ว กลิ่นมันช่างหอมรันจวนจนอยากจะอาเจียรเลยทีเดียว  ขั้นตอนนี้ไม่ยาก เข้าไปนั้นในรถ ให้จมูก(ซึ่งทุกคนต้องมี) ดมครับ ไม่จำเป็นต้องสูดดดดดังๆ นะครับ เกรงใจเจ้าของรถเค้า แต่ดมก็สัมผัสได้แล้ว ก็ทำไปตอนระหว่างที่ทดสอบระบบไฟฟ้า ไปในตัวเลยก็ได้ครับ  ถ้าพบว่ามีกลิ่นอับก็สันนิฐานไว้ก่อนเลยครับ ว่าต้องมีน้ำแน่ๆ แต่ยังฟันธงไม่ได้ เพราะอาจจะเป็นจากระบบแอร์ก็ได้ (รถหน้าฝน เป็นกันเยอะ)  ก็ลองดมไปรอบๆ หน้าบ้าง หลังบ้าง เอาพอประมาณนะครับ

3 สังเกตุที่พรม  เพราะปกติ พรมรถ จะไม่ค่อยมีการรื้อซักเท่าไหร่ นอกจากจะเอาออกมาซักเท่านั้น ที่ให้สังเกต คือพรมนะครับ ไม่ใช่ แผ่นยางรอง ตำแหน่งพรม มันจะอยู่ล่างสุดๆๆๆ เลยครับ โดยมันจะยึดกับตัวถังรถโดยใช้คลิบพลาสติกล๊อกไว้ ไว้ว่าจะเป็นพรมในห้องโดยสาร หรือด้านหลัง(รถเก๋ง) ขั้นตอนนี้ไม่้ต้องถึงขยาดรื้อพรมนะรับ เพราะเต็นท์รถหรือคนขาย ไม่ยอมแน่ๆ ก็ลองสังเกตได้ง่ายๆ ว่าพรมที่เคยผ่านการซักมาแล้ว มันจะไม่เหมือน ที่ออกมาจากโรงงาน ลองสัมผัสดูครับ หรือจะให้แน่ใจ ก็ลองดมดูก็ได้ครับ ถ้ากลิ่นตุๆ ก็คิดไว้เลยว่า น่าจะต้องซักมา (เจ้าของเดิมอาจจะรักสะอาดก็ได้ ?)  แต่ถ้าดูแล้วเหมือนใหม่ก็ ผ่านครับ แต่ยังไม่ครบขั้นตอน

4 ล้วงลับ และสังเกต  คิดว่าข้อนี้คงไม่ติดเรทนะครับ 5555  เพราะน้องน้ำที่จะท่วมรถนั้น มันไม่ได้มีน้ำ 100% มันมีพวกทราย ดิน โคลน ตามเข้ามาด้วย  ลองเอามือล้วงไปตามจุดตามซอกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นใต้คอลโซล พวงมาลับ เก้ใส่เงิน ช่องเก็บของ หรือพวกล่องฟิว ต่างๆ อ่ะไรประมาณนี้ หากพบว่ามีโคลน ก็เริ่มชัดแล้วว่า ไม่น้ำท่วมมาก็มีการสาดโคลนกันในรถแน่ๆ 555  และให้ลองมาสังเกตด้านนอกรถ พวกอะไรก็ตามที่เป็นโลหะ เพราะ เหล็ก+น้ำ+อากาศ =สนิม ต่อไปจะผุ กร่อน   สูตรง่ายๆ ครับ  ให้สังเกตตามท่อไอเสีย ช่วงล่าง ว่ามีสนิมมากน้อยเพียงได้ (อันนี้ไม่ชัวว์เพราะรถอาจจะวิ่งลุยน้ำมาก็ได้) ให้เก็บไว้เป็นข้อมูลเพื่อตัดสินใจครับ ถ้าเจอทั้ง ระบบไฟไม่ดี มีกลิ่นตุๆ อ่อนๆ มีคราบดินโครนตามซอก เจอสนิม  เหอะๆ อย่างนี้เป็นผมไม่เอาครับ แค่กลิ่นก็เวียนหัวแล้วว

5 ตัวซับเสียง  พวกนี้จะเป็นพวกใยแก้ว เพื่อโดนน้ำแล้ว จะเปื้อยยุ่ย เมื่อเจอคราบแล้ว มันจะล้างไม่ได้ ต้องเปลี่ยนอย่างเดียว แต่ถ้าเปลี่ยนมา สังเกตดูแล้วใหม่ ผิดปกติ ก็ลองดูคราลกาว ว่ามันมีลักษณะพึ่งติดมาหรือไม่ ถ้าเป็นรอยก้าวใหม่ๆ ตรงนี้ต้องประสบการณ์อย่างเดียวครับ ก็สันนิฐานได้เลยครับ ว่าต้องเปลี่ยนใหม่ แล้วทำไมต้องเปลี่ยน  มาถึงจุดนี้ เราต้องใช้ข้อ 1-4 ในการช่วยตัดสินใจและฟันธงไปว่า รถคันนี้ จมน้ำมาหรือไม่

ในการตรวจมือสอง แค่ดุแค่จุดสองจุด เราไม่สามารถฟันธงได้ว่า รถคันนี้เคยคว่ำ ชนหนัก หรือน้ำท่วมมา เพราะถ้าเราฟันธงโดยที่ดูไม่ละเอียด ทางผู้ขายหรือเต็นท์รถ เค้าอาจจะไม่พอใจก็เป็นได้ ขอให้ใช้ข้อพิจารณาหลายๆ ข้อมารวมกันและทำการวิเคราะห์ ครับ

การซื้อรถยนต์มือสอง โดยที่ไม่มีความรู้เรื่องรถยนต์เลย มีความเสียงนะครับ เพราะคุณอาจจะตกเป็นเหยื่อในการหลอกขายรถสภาพแย่ แต่สวย ก็เป็นได้ครับ

Credit :www.scan2car.com